การเผาไหม้หนัง เป็นอีกหนึ่งวิธีที่เรามักจะใช้สำหรับพิสูจน์ว่า กระเป๋าหนังที่เรามีอยู่นั้น ไม่ว่าจะซื้อมาจากร้านไหนหรือแบรนด์อะไรก็ตาม กระเป๋าหนังที่แบรนด์นั้น ๆ โฆษณาไว้กับเรา จะเป็นหนังแบบนั้นจริง ๆ รึป่าว ?

เจียน เฟอเรนเต้ เราจึงทำการเลือกทดลองการเผาไหม้ของหนังแต่ละชนิด ไม่ว่าจะเป็น หนังแท้ หนังเทียม และ หนังไมโครไฟเบอร์ เพื่อทำความเข้าใจว่า หนังแต่ละชนิดที่นำมาผลิต กระเป๋าหนัง แต่ละแบบจะมีความทนทานต่อการเผาไหม้ที่แตกต่างกัน เราไปดูการเผาไหม้หนังพร้อม ๆ กันเลยครับ

1. การเผาไหม้ของหนังแท้

เมื่อนำหนังแท้มาทดสอบการเผาไหม้ โดยการจุดไฟลงบนแผ่นหนังแท้ สังเกตุได้ว่า หนังแท้จะติดไฟในระดับหนึ่ง แต่ค่อยข้างจะติดไฟยากกว่าหนังเทียม และหนังไมโครไฟเบอร์  หนังแท้จะมีการเผาไหม้อย่างช้า ๆ เมื่อโดนไฟเผา แต่ไม่ลุกลามท่วมแผ่นหนังในทันที หนังแท้บริเวณที่ถูกไฟจะค่อย ๆ เกิดรอยย่นหรือรอยยับขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนที่ถูกไฟเผาจะไม่ขาดหลุดลุ่ยออกมา แต่จะส่งกลิ่นธรรมชาติของหนังสัตว์ เมื่อไฟเริ่มระอุบนหนังจนได้กลิ่นหนังแท้ที่ชัดเจน

2. การเผาไหม้ของหนังเทียม 

การพิสูจน์การเผาไหม้บนหนังเทียม หากเราเริ่มจุดไฟลงบนแผ่นหนังเทียม ไฟจะเริ่มลุกลามบนหนังค่อนข้างรวดเร็ว หนังเทียมที่ถูกไฟเผา จะไม่มีเศษหนังที่ติดไฟหลุดลุ่ยออกมา แต่หนังเทียมจะค่อย ๆ งอตัวและจับตัวกันเป็นก้อนหนังไหม้แข็ง ๆ อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะส่งกลิ่นสารเคมีของหนังเทียมค่อนข้างรุนแรงกว่าหนังแท้ บริเวณส่วนหนังจะติดรอยไหม้หรือรอยดำ เมื่อโดนควันของการเผาหนังเทียม

กระเป๋าหนัง

3. การเผาไหม้ของหนังไมโครไฟเบอร์

หากจุดไฟเผาลงบนหนังไมโครไฟเบอร์ เมื่อไฟเริ่มปะทุบนผิวหนัง จะเห็นได้ว่าหนังไมโครไฟเบอร์ผิวชั้นแรก จะหลุดออก ปรากฎผิวหนังชั้นในที่มีลักษณะเป็นขน ๆ และค่อนข้างติดไฟได้ดี หนังไมโครไฟเบอร์ที่โดนไฟจะละลายและมีเศษหนังหลุดลอกออกมาจากแผ่นหนังเดิม พร้อมส่งกลิ่นสารเคมีที่รุนแรงน้อยกว่าหนังเทียม การเผาไหม้ของหนังไมโครไฟเบอร์ จะมีควันเกิดขึ้นมากกว่าหนังหนังแท้และหนังเทียม ซึ่งควันที่เกิดขึ้นนั้น เมื่อปลิวสัมผัสกับแผ่นหนังจะติดรอยดำและรอยเผาไหม้อย่างชัดเจน

เจียนเฟอเรนเต้ เราได้พาคุณไปสัมผัสให้เห็นกันแบบชัด ๆ แล้วนะครับ เมื่อหนังแต่ละชนิดถูกการเผาไหม้ จะทำให้เกิดลักษณะของหนังไหม้ที่แตกต่างกัน ซึ่งจะทำให้คุณสามารถแยกประเภทของหนังได้แน่นอน อย่างไรก็ตาม หากคุณรู้แล้วว่าหนังแต่ละชนิด ไม่ว่าจะเป็นหนังแท้ หนังเทียม หรือหนังไมโครไฟเบอร์ เมื่อถูกไฟเผาจะเป็นอย่างไร โปรดระมัดระวังในการตัดสินใจทดลองเผาไหม้กระเป๋าหนังของตัวเองนะครับ เพราะมันอาจจะสร้างความเสียหายให้กับกระเป๋าหนังที่คุณยอมจ่ายเพื่อให้ได้กระเป๋าหนังที่ตนเองชื่นชอบมาไว้ในครอบครอง อีกทั้งคำถามมากมายเกี่ยวกับการเผาไหม้กระเป๋าหนังแท้ ที่ผู้คนส่วนใหญ่ มักได้ข้อมูลที่ผิดพลาดว่า กระเป๋าหนังแท้ จะไม่เกิดการไหม้ เมื่อมีการเผาหรือโดนจุดไฟ แท้ที่จริงแล้วหนังแท้ก็สามารถติดไฟได้เช่นกัน เพราะหนังสัตว์ธรรมชาติก็มีความคล้ายคลึงกับผิวหนังตามธรรมชาติของมนุษย์ หากโดนความร้อน ต่อให้เป็นหนังแท้ หนังเทียม และหนังไมโครไฟเบอร์ ที่มีความทนทานสูงแค่ไหน ก็สามารถเกิดการเผาไหม้ได้เหมือนกันหมดครับ

นอกจากการทดลองเผาไหม้หนังเพื่อดูว่ากระเป๋าสตางค์ กระเป๋าคาดอก กระเป๋าเอกสาร และกระเป๋ารูปแบบอื่น ๆ ที่คุณมีนั้น แท้จริงแล้วเป็นกระเป๋าหนังแท้ กระเป๋าหนังเทียม และ กระเป๋าหนังไมโครไฟเบอร์ กันแน่ ผมมีวิธีการพิสูจน์หนังแต่ละประเภทด้วยรูปแบบอื่น ๆ ที่ผมอยากจจะแนะนำให้คุณเริ่มจากการดู Texture ของกระเป๋าแบบง่าย ๆ ที่จะทำให้คุณแยกประเภทหนังออกได้ แม้เพียงการมองเห็นแค่ตาเปล่า หรือเพียงการสัมผัสผิวหนังครับ ซึ่งผมจะขอนำเสนอ 3 เทคนิคตรวจสอบกระเป๋าหนังแท้ กระเป๋าหนังเทียม และ กระเป๋าหนังไมโครไฟเบอร์ให้คุณจับพิรุธพ่อค้าแม่ขายที่ต้องการขายกระเป๋าหนังให้กับคุณแบบแสนจะง่ายดาย ดังต่อไปนี้ครับ

1. ความยืดยุ่นของหนังแต่ละประเภท

เริ่มจากหนังแท้ เมื่อมีการพับหรืองอตัวจะคืนสภาพหนังเดิมอย่างรวดเร็ว แต่จะทิ้งร่องรอยของการถูกพับ ถูกหักงอเอาไว้อย่างชัดเจน ซึ่งหนังแท้ก็สามารถแบ่งได้เป็นหลายประเภท ทั้งที่มีความยืดหยุ่นสูงและไม่ยืดหยุ่นตามคุณภาพและเกรดของหนังแท้ชนิดนั้น ๆ ส่วนหนังไมโครไฟเบอร์ เมื่อถูกพับหรืองอ จะคืนสภาพเร็วพอ ๆ กับหนังแท้ แต่จะไม่ทิ้งร่องรอยของการพับใด  ๆ บนผิวหนัง สำหรับหนังเทียม หากมีการพับหรืองอ จะค่อย ๆ คืนสภาพอย่างช้า ๆ และจะไม่ทิ้งร่องรอยของการพับเช่นเดียวกับหนังหนังไมโครไฟเบอร์นั่นเอง สำหรับหนังไมโครไฟเบอร์และหนังเทียมที่แบรนด์ใช้เป็นวัสดุในการผลิตนั้น จะไม่มีลักษณะของความยืดหยุ่นครับ

2. ลวดลายและผิวสัมผัสของหนังแต่ละประเภท

ตามธรรมชาติของหนังสัตว์โดยทั่วไป จะมีลวดลายที่ไม่ซ้ำแบบกันและลวดลายบนผิวหนังจะมีความเป็นเอกลักษณ์ตามสัตว์แต่ละชนิด แต่ละขนาดลำตัว ดังนั้น หนังแท้ จึงให้ texture ของหนังที่โดดเด่นและถือเป็นหนังละเอียด ซึ่งจะมีทั้งรอยแผล รอยผิวหนัง  รอยย่นปรากฎให้เราได้เห็นอย่างชัดเจน ในบางครั้งลวดลายบนกระเป๋าหนังแท้สามารถเกิดขึ้นได้จากการปั้มลายเองที่ไม่ใช่ลวดลายธรรมชาติ ซึ่งหากพูดถึงหนังแท้ปั้มลาย จะมีลักษณะลวดลายที่เท่ากันหมด เกิดจากการใช้แม่พิมพ์แท่นเดียวกันครับ ดังนั้น จึงมีความคล้ายคลึงกับกระเป๋าหนังเทียมและ กระเป๋าหนังไมโครไฟเบอร์ ที่ผิวหนังค่อยข้างเรียบ ลวดลายเป็นแบบเดียวกันทุกผืน ไม่มีร่องรอยใด  ๆ หลงเหลืออยู่ คุณอาจจะต้องสังเกตุกันให้ดี ๆ เห็นกันแบบชัด ๆ ถึงจะสามารถแยกหนังแต่ละประเภทจากลวดลายของหนังได้ แต่ถ้าหากคุณยังดูไม่ออกว่ากระเป๋าหนังใบนั้น ใบนี้ ลวดลายแบบนี้คือหนังอะไร เราเตรียมวิธีการสังเกตุอีกแบบหนึ่งไว้ให้แล้วครับ นั่นก็คือ ผิวสัมผัสของหนังแต่ละชนิดนั่นเอง หากกระเป๋าหนังที่คุณมีครอบครองไว้ เมื่อนำมาสัมผัสแล้วรู้สึกเหมือนกำลังจับพลาสติกอยู่ แจ็คพ็อตแตกเลยครับ ว่ากระเป๋าหนังใบนั้นก็คือ หนังเทียม แต่ถ้าเป็นกระเป๋าหนังแท้ เมื่อได้รับการจับต้อง จะให้อารมณ์ความรู้สึกเหมือนกำลังจับหนังสัตว์จริง ๆ อยู่ ซึ่งหนังแท้ส่วนนี้ จะเรียกว่า หนัง Full grain แต่ก็ยังมีหนังแท้อีกเกรดหนึ่งที่เรียกว่า หนัง bonded หากได้สัมผัสจะรู้สึกถึงความไม่เป็นธรรมชาติของหนังทันทีครับ ส่วนหนังไมโครไฟเบอร์และหนังเทียม หากแบรนด์ไหน สามารถโคลนนิ่งคุณภาพหนังมาได้ดีเยี่ยม เมื่อสัมผัสหนังไมโครไฟเบอร์และหนังเทียม จะให้ความรู้สึกคล้ายการสัมผัสกระเป๋าหนังแท้ ประเภท Full grain แค่คุณลองหลับตาและจินตนาการตามผิวสัมผัสนั้น ก็สามารถช่วยแยกหนังแต่ละชนิดได้ครับ

3. น้ำหนักกระเป๋าหนังที่เคยคิดว่าจะช่วยพิสูจน์หนังแท้และหนังเทียมได้

ถึงแม้ว่าจะมีคอนเทนต์มากมายที่แนะนำเทคนิคการแยกกระเป๋าหนังแท้ กระเป๋าหนังเทียม และกระเป๋าหนังไมโครไฟเบอร์ด้วยการวัดจากน้ำหนักกระเป๋า แต่คุณรู้หรือไม่ ว่าแท้จริงแล้ว น้ำหนักกระเป๋าหนังนั้น ไม่สามารถถูกวัดด้วยน้ำหนักในการแยกประเภทหนังได้ ด้วยองค์ประกอบแวดล้อมมากมายที่ทำให้น้ำหนักของกระเป๋าหนังแท้ กระเป๋าหนังเทียม และกระเป๋าหนังไมโครไฟเบอร์แต่ละใบแตกต่างกัน ต่อให้จะใช้ประเภทหนังชนิดเดียวกันก็ตาม นั่นก็เพราะว่า ขั้นตอนในการผลิตกระเป๋าหนังจะต้องมีการปอกหนังบางไม่บางตามมาตรฐานรูปแบบของการดีไซน์กระเป๋าหนังรูปแบบนั้น ๆ รวมไปถึงการเพิ่มชิ้นงานซับในกระเป๋า วัสดุที่นำมาใช้ผลิตซับใน และชิ้นส่วนอะไหล่ต่าง ๆ อาทิเช่น หูกระเป๋า ซิป ห่วงกระเป๋า และอะไหล่อื่น ๆ ที่ใช้สำหรับตกแต่งตามดีไซน์กระเป๋าหนังแท้ กระเป๋าหนังเทียม และกระเป๋าหนังไมโครไฟเบอร์แต่ละแบบ ทั้งหมดนี้ จึงทำให้น้ำหนักกระเป๋าแต่ละใบไม่เท่ากัน จึงไม่สามารถนำเกณฑ์การใช้น้ำหนักกระเป๋ามาวัดได้ว่าหนังชนิดไหนมีความหนัก เบาเท่าใดบ้างครับ

ทั้งนี้ในการเผาไหม้กระเป๋าหนังแต่ละประเภท จะเป็นเพียงการทดสอบหนังที่แบรนด์เจียน เฟอเรนเต้ มีเอาไว้เพื่อวิจัยว่า จะใช้หนังชนิดใดผลิตกระเป๋าหนังแท้ กระเป๋าหนังเทียม และ กระเป๋าหนังไมโครไฟเบอร์จำหน่ายเท่านั้นนะครับ ซึ่งอาจจะไม่สามารถเป็นบรรทัดฐานของการเผาไหม้หนังทุกชนิดได้ เนื่องจาก หนังแท้นั้น มีหลากหลายลักษณะ ซึ่งแต่ละลักษณะก็มีความแตกต่างกัน อีกทั้งหนังเทียมและหนังไมโครไฟเบอร์ต่างก็มีหลายลักษณะและหลายเกรดเช่นกันครับ