ถ้าคุณเลือกเข้ามาอ่านบทความนี้ แสดงว่ากำลังมองหากระเป๋าหนังแท้ดี ๆ สักใบอยู่แน่ ๆ เลยใช่ไหมครับ วันนี้ ผมจะมาเล่าให้ฟังว่ากระเป๋าหนังที่ร้านค้ามักเคลมว่า เป็นกระเป๋าหนังแท้ 100 % ทำให้เหล่านักช็อปที่คลั่งไคล้การใช้กระเป๋าหนังแท้จะต้องตัดสินใจเลือกซื้อมาใช้ทันทีนั้น แท้จริงแล้วคุณกำลังตกเป็นเหยื่อกระเป๋าหนังราคาแพงที่ไม่ใช่หนังแท้ 100 % อยู่รึป่าว เพราะร้านค้ากระเป๋าหนังส่วนใหญ่ มักใช้ถ้อยคำในการขายกระเป๋าหนังเทียมทั้ง หนังพียู หนังพีวีซี หรือหนังไมโครไฟเบอร์ ด้วยคำว่า กระเป๋าหนังแท้ ซึ่งจริง ๆ แล้วกระเป๋าหนังแท้ จะต้องหมายถึงกระเป๋าหนังสัตว์แท้เท่านั้น
กระเป๋าหนังแท้ที่ทุกคนต้องการเป็นเจ้าของ ซื้อมาเพื่อใช้งาน ซื้อมาเพื่อเป็นของขวัญให้ตัวเองหรือซื้อมาเพื่อให้เป็นของขวัญกับคนที่คุณรัก เมื่อคุณกำลังมองหาร้านกระเป๋าหนังดี ๆ สักร้านหนึ่ง คงมีร้านค้ากระเป๋าหนังจำนวนไม่น้อยบนท้องตลาดที่ออกมานำเสนอขายกระเป๋าหนังที่การันตีว่าเป็นหนังแท้ เกรดดี มีคุณภาพมากมาย และทำให้เหล่านักช็อปมักหลงใหลอยู่กับดีไซน์ของกระเป๋าหนังแท้เพียงแค่รูปลักษณ์ที่เป็นแฟชั่นภายนอกเท่านั้น ในขณะที่คุณกำลังเพลิดเพลินกับการเลือกซื้อเพื่อจะได้กระเป๋าหนังแท้มาครอบครอง พ่อค้า แม่ค้า หรือแบรนด์ต่าง ๆ กำลังหลอกขายกระเป๋าหนังราคาแพงที่ภายในกระเป๋าอาจจะไม่ได้ใช้วัสดุหนังแท้ด้วยซ้ำ แต่ถูกทดแทนการตัดเย็บกระเป๋าหนังด้วยวัสดุอื่น ๆ เช่น หนังไมโครไฟเบอร์ หรือ หนังพียู หนังพีวีซี งานนี้ เหล่าคนรักกระเป๋าหนังแท้คงต้องเสียดายที่จ่ายเงินฟรีให้กับกระเป๋าหนังเทียมเลยนะครับ
แล้วเราจะทำยังไงเพื่อไม่ให้ร้านค้ากระเป๋าหนังมาหลอกขายกระเป๋าหนังสังเคราะห์ให้กับเราได้ เจียน เฟอเรนเต้ เราขอเปิดใจอย่างหมดเปลือกว่าวัสดุที่ใช้ ผลิตกระเป๋าหนังแท้ 100 % มีกี่ประเภท แล้วแต่ละประเภทมีหนังที่ราคาสูงแตกต่างกันอย่างไร เมื่อทุกคนเข้าใจแล้ว จะได้เลือกซื้อ กระเป๋าหนังที่คุ้มค่ากับราคา ฟังก์ชั่น รวมไปถึงวัสดุที่ใช้ในการผลิต อย่างแท้จริง
เรามาเริ่มทำความรู้จักกับกระเป๋าหนังแท้ไปพร้อม ๆ กันเลยนะครับ หนังแท้ หรือที่เรามักเรียกกันว่า หนังธรรมชาติ 100 % ที่ได้จากสัตว์หลายสายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นหนังวัว หนังจระเข้ หนังนกกระจอกเทศ หนังปลากระเบนหรือหนังของสัตว์ชนิดอื่น ๆ อีกมากมาย ผ่านกระบวนการผลิตกระเป๋า จนได้กระเป๋าหนังแท้ 100 % ซึ่งหนังแท้นั้น จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ดังนี้
กระเป๋าหนังแท้ที่ทุกคนต้องการเป็นเจ้าของ ซื้อมาเพื่อใช้งาน ซื้อมาเพื่อเป็นของขวัญให้ตัวเองหรือซื้อมาเพื่อให้เป็นของขวัญกับคนที่คุณรัก เมื่อคุณกำลังมองหาร้านกระเป๋าหนังดี ๆ สักร้านหนึ่ง คงมีร้านค้ากระเป๋าหนังจำนวนไม่น้อยบนท้องตลาดที่ออกมานำเสนอขายกระเป๋าหนังที่การันตีว่าเป็นหนังแท้ เกรดดี มีคุณภาพมากมาย และทำให้เหล่านักช็อปมักหลงใหลอยู่กับดีไซน์ของกระเป๋าหนังแท้เพียงแค่รูปลักษณ์ที่เป็นแฟชั่นภายนอกเท่านั้น ในขณะที่คุณกำลังเพลิดเพลินกับการเลือกซื้อเพื่อจะได้กระเป๋าหนังแท้มาครอบครอง พ่อค้า แม่ค้า หรือแบรนด์ต่าง ๆ กำลังหลอกขายกระเป๋าหนังราคาแพงที่ภายในกระเป๋าอาจจะไม่ได้ใช้วัสดุหนังแท้ด้วยซ้ำ แต่ถูกทดแทนการตัดเย็บกระเป๋าหนังด้วยวัสดุอื่น ๆ เช่น หนังไมโครไฟเบอร์ หรือ หนังพียู หนังพีวีซี งานนี้ เหล่าคนรักกระเป๋าหนังแท้คงต้องเสียดายที่จ่ายเงินฟรีให้กับกระเป๋าหนังเทียมเลยนะครับ
แล้วเราจะทำยังไงเพื่อไม่ให้ร้านค้ากระเป๋าหนังมาหลอกขายกระเป๋าหนังสังเคราะห์ให้กับเราได้ เจียน เฟอเรนเต้ เราขอเปิดใจอย่างหมดเปลือกว่าวัสดุที่ใช้ ผลิตกระเป๋าหนังแท้ 100 % มีกี่ประเภท แล้วแต่ละประเภทมีหนังที่ราคาสูงแตกต่างกันอย่างไร เมื่อทุกคนเข้าใจแล้ว จะได้เลือกซื้อ กระเป๋าหนังที่คุ้มค่ากับราคา ฟังก์ชั่น รวมไปถึงวัสดุที่ใช้ในการผลิต อย่างแท้จริง
เรามาเริ่มทำความรู้จักกับกระเป๋าหนังแท้ไปพร้อม ๆ กันเลยนะครับ หนังแท้ หรือที่เรามักเรียกกันว่า หนังธรรมชาติ 100 % ที่ได้จากสัตว์หลายสายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นหนังวัว หนังจระเข้ หนังนกกระจอกเทศ หนังปลากระเบนหรือหนังของสัตว์ชนิดอื่น ๆ อีกมากมาย ผ่านกระบวนการผลิตกระเป๋า จนได้กระเป๋าหนังแท้ 100 % ซึ่งหนังแท้นั้น จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ดังนี้
1. หนังดิบ คือ หนังธรรมชาติที่ได้จากสัตว์ที่เสียชีวิตแล้ว โดยนำหนังมาผ่านกรรมวิธีการทำความสะอาดและนำไปใช้ได้ทันที ซึ่งไม่ต้องผ่านวิธีการฟอกหนัง หนังประเภทนี้ จะมีลักษณะความตึงของผิวหนังสูง ไม่ค่อยยืดหยุ่นและบางครั้งจะมีพื้นผิวหยาบเล็กน้อย จึงเป็นที่นิยมในการนำมาใช้ผลิตอุปกรณ์ดนตรีต่าง ๆ เช่น หนังกลอง เป็นต้น ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยนำมาใช้ในการผลิตกระเป๋าหนังด้วยลักษณะของหนังที่ไม่ได้ตอบโจทย์กับการใช้งานเท่าที่ควร
2. หนังฟอก คือ หนังดิบที่ผ่านกรรมวิธีการฟอกเพื่อแปรสภาพให้หนังดิบที่สามารถเน่าเปื่อยได้กลายเป็นหนังสำเร็จรูปที่คงสภาพเดิมทำให้หนังมีลักษณะอ่อนนุ่ม ผิวเรียบสม่ำเสมอ ทนทานต่อสภาพอากาศและความร้อน ลดความหยาบกระด้าง มีสีสันสวยงาม แต่ถ้าหากเป็นหนังวัว สีที่ได้จากการฟอกอาจจะไม่สวยงามนัก ซึ่งก็ไม่ได้เป็นปัญหาแต่อย่างใด เพราะเราสามารถนำหนังวัวไปย้อมสีได้ หนักฟอกจะนิยมนำมาใช้ผลิตกระเป๋าหนังแท้ เนื่องจากมีคุณสมบัติที่ตรงตามความต้องการในการใช้งาน
1. หนังดิบ คือ หนังธรรมชาติที่ได้จากสัตว์ที่เสียชีวิตแล้ว โดยนำหนังมาผ่านกรรมวิธีการทำความสะอาดและนำไปใช้ได้ทันที ซึ่งไม่ต้องผ่านวิธีการฟอกหนัง หนังประเภทนี้ จะมีลักษณะความตึงของผิวหนังสูง ไม่ค่อยยืดหยุ่นและบางครั้งจะมีพื้นผิวหยาบเล็กน้อย จึงเป็นที่นิยมในการนำมาใช้ผลิตอุปกรณ์ดนตรีต่าง ๆ เช่น หนังกลอง เป็นต้น ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยนำมาใช้ในการผลิตกระเป๋าหนังด้วยลักษณะของหนังที่ไม่ได้ตอบโจทย์กับการใช้งานเท่าที่ควร
2. หนังฟอก คือ หนังดิบที่ผ่านกรรมวิธีการฟอกเพื่อแปรสภาพให้หนังดิบที่สามารถเน่าเปื่อยได้กลายเป็นหนังสำเร็จรูปที่คงสภาพเดิมทำให้หนังมีลักษณะอ่อนนุ่ม ผิวเรียบสม่ำเสมอ ทนทานต่อสภาพอากาศและความร้อน ลดความหยาบกระด้าง มีสีสันสวยงาม แต่ถ้าหากเป็นหนังวัว สีที่ได้จากการฟอกอาจจะไม่สวยงามนัก ซึ่งก็ไม่ได้เป็นปัญหาแต่อย่างใด เพราะเราสามารถนำหนังวัวไปย้อมสีได้ หนักฟอกจะนิยมนำมาใช้ผลิตกระเป๋าหนังแท้ เนื่องจากมีคุณสมบัติที่ตรงตามความต้องการในการใช้งาน
ตอนนี้ทุกคนรู้จักหนังฟอกแล้ว แต่อาจจะยังไม่เข้าใจว่าการฟอกนั้น มีขั้นตอนการฟอกหนังได้อย่างไร ผมขออธิบายสั้น ๆ ไว้แบบนี้ครับ การฟอกหนัง สามารถทำได้ 2 วิธี ก็คือ การฟอกโครมและการฟอกฝาด ซึ่งจะสามารถอธิบายได้ดังนี้
1. การฟอกโครม คือ การฟอกในถังหมุนที่ใช้สารเคมีจำพวกเกลือของโครเมียมเป็นตัวฟอก ซึ่งหนังที่ได้จะทนต่อความร้อนและความชื้นได้ดี
2. การฟอกฝาด คือ การฟอกที่ใช้สารสกัดจากธรรมชาติด้วยเปลือกไม้ต่าง ๆ มักนำไปฟอกในถังปั่นหรือบ่อคอนกรีต ซึ่งจะได้หนังที่มีคุณภาพมากกว่าการฟอกโครม แต่ก็แลกมาด้วยต้นทุนที่สูงกว่า เสน่ห์ของหนังฟอกฝาดคือ ยิ่งใช้งานนานเท่าไหร่ หนังจะยิ่งนิ่มและยิ่งสวยงามมากขึ้นเท่านั้น หากมีการฟอกกระเป๋าหนังแท้ด้วยวิธีนี้ จะทำให้กระเป๋าหนังมีอายุการใช้งานที่ทนทานมากกว่า 10 ปี เรียกได้ว่าใช้กระเป๋าหนังกันคุ้มค่าเลยทีเดียว
ตอนนี้ทุกคนรู้จักหนังฟอกแล้ว แต่อาจจะยังไม่เข้าใจว่าการฟอกนั้น มีขั้นตอนการฟอกหนังได้อย่างไร ผมขออธิบายสั้น ๆ ไว้แบบนี้ครับ การฟอกหนัง สามารถทำได้ 2 วิธี ก็คือ การฟอกโครมและการฟอกฝาด ซึ่งจะสามารถอธิบายได้ดังนี้
1. การฟอกโครม คือ การฟอกในถังหมุนที่ใช้สารเคมีจำพวกเกลือของโครเมียมเป็นตัวฟอก ซึ่งหนังที่ได้จะทนต่อความร้อนและความชื้นได้ดี
2. การฟอกฝาด คือ การฟอกที่ใช้สารสกัดจากธรรมชาติด้วยเปลือกไม้ต่าง ๆ มักนำไปฟอกในถังปั่นหรือบ่อคอนกรีต ซึ่งจะได้หนังที่มีคุณภาพมากกว่าการฟอกโครม แต่ก็แลกมาด้วยต้นทุนที่สูงกว่า เสน่ห์ของหนังฟอกฝาดคือ ยิ่งใช้งานนานเท่าไหร่ หนังจะยิ่งนิ่มและยิ่งสวยงามมากขึ้นเท่านั้น หากมีการฟอกกระเป๋าหนังแท้ด้วยวิธีนี้ จะทำให้กระเป๋าหนังมีอายุการใช้งานที่ทนทานมากกว่า 10 ปี เรียกได้ว่าใช้กระเป๋าหนังกันคุ้มค่าเลยทีเดียว
เมื่อหนังแท้ทุกชนิดได้ผ่านการฟอกแล้วนั้น จะทำให้เกิดหนังที่มีลักษณะแตกต่างกันออกไป ซึ่งจะสามารถแบ่งออกเป็น 5 ประเภท ดังนี้
1. หนังฟลูเกรน (Full Grain)
หากใครที่อยู่ในวงการหนังแท้ จะรู้กันดีว่า หนังฟลูเกรน คือ หนังส่วนที่ดีเป็นอันดับหนึ่งในบรรดาหนังทุก ๆ ชนิด อีกทั้งเป็นหนังชั้นบนสุดที่จะแสดงลวดลายหนังธรรมชาติของสัตว์ชนิดต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน หนังฟลูเกรน เมื่อผ่านขั้นตอนการฟอกแล้ว อาจทำให้เกิดรอยตำหนิ ไม่ว่าจะเป็นรอยแผล รอยย่น รอยยับ รอยรูขุมขนต่าง ๆ รอยทั้งหมดที่อยู่บนหนังสัตว์ ถึงแม้จะฟังดูแล้วรู้สึกว่าตำหนิเยอะขนาดนี้ ทำไมถึงเรียกได้ว่าเป็นหนังส่วนที่ดีที่สุดในการนำมาผลิตกระเป๋าหนังแท้ เพราะคุณสมบัติที่มีความทนทานต่อความร้อนสูง การใช้งานที่ยาวนาน อีกทั้งในส่วนที่เป็นตำหนิทั้งหมด จะถูกกำจัดออกเพื่อเลือกหนังส่วนที่ดีที่สุดมาใช้ผลิตกระเป๋าหนัง เพื่อทำให้ลวดลายบนกระเป๋าหนังสวยงามที่สุด จึงทำให้มีราคาที่สูงมากที่สุด เมื่อเปรียบกับหนังประเภทอื่น ๆ
2. หนังท็อปเกรน (Top Grain)
หนังท็อปเกรนเป็นหนังที่มีคุณภาพสูง ซึ่งจะเป็นหนังส่วนที่อยู่ถัดจากหนังชั้นนอกสุด ผู้ผลิตส่วนใหญ่มักนำหนังท็อปเกรนไปขัดรอยธรรมชาติออกและเข้าสู่กระบวนการเจียรพื้นผิวหนังเพื่อกลบตำหนิ รอยรูขุมขนต่าง ๆ หลังจากนั้นจะนำหนังท็อปเกรนไปใช้เพื่อผลิตเครื่องหนัง กระเป๋าหนังและอื่น ๆ
3. หนังสปริท (Split)
หนังชั้นกลางจะเป็นส่วนที่ถูกนำไป Coating การเคลือบหนังเพื่อเป็นการรักษาสภาพหนัง ถึงแม้ว่าหนังชั้นนี้จะมีโครงสร้างโดยรวมของหนังสภาพดี แต่เนื่องจากการเรียงตัวของไฟเบอร์บนพื้นผิวหนังในชั้นนี้อ่อนแอกว่าชั้นอื่น ๆ หากมีการนำหนังสปริทไปใช้ผลิตเครื่องหนังหรือกระเป๋าหนังอาจส่งผลให้เสื่อมสภาพได้เร็วกว่าหนังชั้นท็อปเกรนและฟลูเกรน ด้วยความอ่อนแอของชั้นผิวหนังทำให้การดูแลรักษาจะค่อนข้างลำบาก
2. หนังท็อปเกรน (Top Grain)
หนังท็อปเกรนเป็นหนังที่มีคุณภาพสูง ซึ่งจะเป็นหนังส่วนที่อยู่ถัดจากหนังชั้นนอกสุด ผู้ผลิตส่วนใหญ่มักนำหนังท็อปเกรนไปขัดรอยธรรมชาติออกและเข้าสู่กระบวนการเจียรพื้นผิวหนังเพื่อกลบตำหนิ รอยรูขุมขนต่าง ๆ หลังจากนั้นจะนำหนังท็อปเกรนไปใช้เพื่อผลิตเครื่องหนัง กระเป๋าหนังและอื่น ๆ
3. หนังสปริท (Split)
หนังชั้นกลางจะเป็นส่วนที่ถูกนำไป Coating การเคลือบหนังเพื่อเป็นการรักษาสภาพหนัง ถึงแม้ว่าหนังชั้นนี้จะมีโครงสร้างโดยรวมของหนังสภาพดี แต่เนื่องจากการเรียงตัวของไฟเบอร์บนพื้นผิวหนังในชั้นนี้อ่อนแอกว่าชั้นอื่น ๆ หากมีการนำหนังสปริทไปใช้ผลิตเครื่องหนังหรือกระเป๋าหนังอาจส่งผลให้เสื่อมสภาพได้เร็วกว่าหนังชั้นท็อปเกรนและฟลูเกรน ด้วยความอ่อนแอของชั้นผิวหนังทำให้การดูแลรักษาจะค่อนข้างลำบาก
4. หนังไลนิง (Lining)
ผิวหนังชั้นสุดท้ายที่จะสามารถนำมาใช้ผลิตกระเป๋าหนังแท้ได้ คือ หนังไลนิง ซึ่งเป็นหนังที่ไม่มีลวดลายธรรมชาติปรากฎอยู่ ทำให้ไม่ได้รับความนิยมในการใช้ผลิตกระเป๋าหนังบนพื้นผิวด้านนอก เนื่องจากหนังไลนิงไม่ได้สวยงามเท่ากับหนังชั้นบนและด้วยคุณสมบัติที่ไม่ทนทานต่อความร้อนสูงมากนัก จึงทำให้ผู้ผลิตกระเป๋าหนังเลือกใช้หนังไลนิงในการทำซับในประกอบมากกว่า
5. หนังบอนเด็ด (Bonded)
หนังที่ได้จากการปาดแยกชั้นหนังด้านบนแล้วเหลือเป็นหนังชิ้นเล็ก ๆ ออกมา เรียกว่า หนังบอนเด็ด ถ้าให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ เศษหนังแท้ นั่นเอง ที่ผู้ผลิตส่วนใหญ่มักนิยมนำเศษหนังมาผ่านกระบวนการผสมกับกาว พร้อมอัดแปรสภาพให้กลายเป็นหนังแผ่นหรือหนังม้วน แล้วเข้าขั้นตอนของการ Coating อีกหนึ่งชั้น เพื่อให้ได้หนังสภาพที่ดี และนำไปย้อมสีเพื่อตกแต่งให้ดูสวยงาม หนังบอนเด็ดจะสามารถนำมาใช้ผลิตกระเป๋าหนังผู้หญิง กระเป๋าหนังผู้ชาย หรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวกับเครื่องหนัง แต่คุณสมบัติของหนังชนิดนี้จะทนทานน้อย ขาดออกง่ายหรือลอกเป็นขุยได้ เมื่อเกิดการใช้งานระยะยาว จึงทำให้กระเป๋าหนังแท้ที่ผลิตจากหนังชนิดนี้ มีราคาถูกกว่าการผลิตด้วยหนังชั้นบน คนส่วนใหญ่จึงยอมจ่ายแพงกว่าเพื่อให้ได้กระเป๋าหนังที่มีคุณภาพสูงกว่า
4. หนังไลนิง (Lining)
ผิวหนังชั้นสุดท้ายที่จะสามารถนำมาใช้ผลิตกระเป๋าหนังแท้ได้ คือ หนังไลนิง ซึ่งเป็นหนังที่ไม่มีลวดลายธรรมชาติปรากฎอยู่ ทำให้ไม่ได้รับความนิยมในการใช้ผลิตกระเป๋าหนังบนพื้นผิวด้านนอก เนื่องจากหนังไลนิงไม่ได้สวยงามเท่ากับหนังชั้นบนและด้วยคุณสมบัติที่ไม่ทนทานต่อความร้อนสูงมากนัก จึงทำให้ผู้ผลิตกระเป๋าหนังเลือกใช้หนังไลนิงในการทำซับในประกอบมากกว่า
5. หนังบอนเด็ด (Bonded)
หนังที่ได้จากการปาดแยกชั้นหนังด้านบนแล้วเหลือเป็นหนังชิ้นเล็ก ๆ ออกมา เรียกว่า หนังบอนเด็ด ถ้าให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ เศษหนังแท้ นั่นเอง ที่ผู้ผลิตส่วนใหญ่มักนิยมนำเศษหนังมาผ่านกระบวนการผสมกับกาว พร้อมอัดแปรสภาพให้กลายเป็นหนังแผ่นหรือหนังม้วน แล้วเข้าขั้นตอนของการ Coating อีกหนึ่งชั้น เพื่อให้ได้หนังสภาพที่ดี และนำไปย้อมสีเพื่อตกแต่งให้ดูสวยงาม หนังบอนเด็ดจะสามารถนำมาใช้ผลิตกระเป๋าหนังผู้หญิง กระเป๋าหนังผู้ชาย หรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวกับเครื่องหนัง แต่คุณสมบัติของหนังชนิดนี้จะทนทานน้อย ขาดออกง่ายหรือลอกเป็นขุยได้ เมื่อเกิดการใช้งานระยะยาว จึงทำให้กระเป๋าหนังแท้ที่ผลิตจากหนังชนิดนี้ มีราคาถูกกว่าการผลิตด้วยหนังชั้นบน คนส่วนใหญ่จึงยอมจ่ายแพงกว่าเพื่อให้ได้กระเป๋าหนังที่มีคุณภาพสูงกว่า
ถึงแม้ว่าจะมีร้านค้ากระเป๋าหนังที่ชอบเคลมกระเป๋าของตัวเองว่าเป็นหนังวัวแท้หรือหนังสัตว์แท้ แต่พวกเขาอาจจะใช้หนังบอนเด็ดที่คุณภาพหนังไม่ทนทาน เสียหายง่าย ในการผลิต แล้วจำหน่ายให้กับทุกคนในราคาที่สูง ดังนั้น ทุกคนจะต้องระมัดระวังในการเลือกซื้อกระเป๋าหนังแท้เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อกับกลุ่มร้านกระเป๋าหนังแบบนี้นะครับ
ถึงแม้ว่าจะมีร้านค้ากระเป๋าหนังที่ชอบเคลมกระเป๋าของตัวเองว่าเป็นหนังวัวแท้หรือหนังสัตว์แท้ แต่พวกเขาอาจจะใช้หนังบอนเด็ดที่คุณภาพหนังไม่ทนทาน เสียหายง่าย ในการผลิต แล้วจำหน่ายให้กับทุกคนในราคาที่สูง ดังนั้น ทุกคนจะต้องระมัดระวังในการเลือกซื้อกระเป๋าหนังแท้เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อกับกลุ่มร้านกระเป๋าหนังแบบนี้นะครับ
เป็นยังไงกันบ้างครับ เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ทุกคนคงได้รู้จักหนังแท้แต่ละประเภทเป็นอย่างดี คราวนี้เดินเข้าร้านกระเป๋าหนังที่ไหนก็ทำให้เรามองเห็นภาพของหนังแท้แต่ละประเภทมากขึ้น นอกจากจะเลือกดูหนังแท้ด้านนอกกระเป๋าหนังแล้ว ยังต้องตรวจดูหนังแท้ด้านในกระเป๋าหนังด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้เหล่าพ่อค้า แม่ค้า หรือแบรนด์ไหน ๆ มาหลอกขายกระเป๋าหนังแท้ไม่เต็มใบจริง ๆ ให้กับคุณได้
แล้วคุณจะสามารถเลือกกระเป๋าหนังแท้ที่ใช่สำหรับคุณได้อย่างถูกใจที่สุด โดยเลือกซื้อกระเป๋าหนังได้จาก Gian ferrente เพราะเราคือผู้เชี่ยวชาญในการผลิตกระเป๋าหนังแท้ 100 % ที่คัดสรรวัสดุในการผลิตกระเป๋าหนังทุกใบอย่างมีคุณภาพ สำหรับหนังแท้ที่เราใช้ในการผลิตจะมีหลายเกรดแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับวิธีการฟอกหนังของโรงงานผลิตหนังแต่ละพื้นที่ ซึ่งแบรนด์ของเรามองเห็นถึงความสำคัญของคุณภาพกระเป๋าหนังแท้ จึงได้เลือกโรงงานผลิตหนังแท้รายใหญ่ส่งตรงมาไกลจากประเทศอิตาลี และ สเปน เพราะโรงฟอกเหล่านี้ จะใช้สารเคมีในการฟอกหนังที่ปลอดภัยต่อผู้ฟอกและผู้ใช้ อีกทั้งโรงฟอกที่เราเลือกรับหนังมาผลิตกระเป๋าหนังแท้นั้น ได้รับมาตราฐานจากยุโรปในเรื่องของการควบคุมมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม เรียกได้ว่าเจียน เฟอเรนเต้ถือเป็นแบรนด์กระเป๋าหนังแท้ The best คุณภาพเยี่ยมติดอันดับท็อปของเมืองไทย เพราะเราใส่ใจทุกรายละเอียดไม่ว่าจะเป็นตัวสินค้ากระเป๋าหนังแท้ ผู้ผลิต กลุ่มลูกค้า ตลอดจนความรับผิดชอบต่อสังคม อีกทั้งเรามีการออกแบบฟังก์ชั่นการใช้งาน รูปลักษณ์กระเป๋าที่ตอบโจทย์สำหรับคุณผู้ชายทั้งกระเป๋าคาดอก กระเป๋าสตางค์ กระเป๋าเอกสาร และกระเป๋าหนังแท้รูปแบบต่าง ๆ อีกมากมาย คุณสามารถเลือกดู สินค้ากระเป๋าหนังแท้ของเราเพื่อจับจองเป็นเจ้าของได้ที่นี่
